วิธีเลือกซื้อเปียโนมือสองยามาฮา
ตอน YAMAHA U1 และ U3
สิ่งแรกที่ทำให้ผมสะดุดตาภายในโชว์รูมยามาฮา ตอนที่ผมมีโอกาสไปลองเปียโน คือ ราคา และโปรโมชั่นผ่อน 0% ของเปียโนใหม่รุ่น JX-109 และ JX-113 ราคาของเปียโนใหม่ทั้ง 2 รุ่นดูไม่แพง และใกล้เคียงกับราคาของเปียโนใช้แล้วรุ่น U1 และ U3 ที่ผมสนใจอยู่มาก เแต่หลังจากที่ผมได้ลองเล่นแล้ว ผมพบว่ามันเป็นเปียโนทั้ง 2 รุ่นนี้มีคุณภาพแย่มาก เทียบไม่ได้เลยกับเปียโนมือสองของยามาฮารุ่น U1 และ U3
ปัจจุบันยามาฮามีโรงงานผลิตเปียโนในประเทศจีน อินโดนีเซีย แม๊กซิโก และไต้หวัน ลูกค้าหลายท่านอาจคิดไปเองว่าเปียโนยามาฮาทุกรุ่น ผลิตในประเทศญี่ปุ่น ดังนั้นเขาจึงเดินเข้าไปในโชว์รูมยามาฮาที่อยู่ใกล้เขาที่สุด และซื้อเปียโนรุ่น JU-109 หรือ JX-113 ทันทีพร้อมกับคาดหวังว่าเขาได้ซื้อเปียโนที่มีคุณภาพสูงในราคาถูก ในความเป็นจริงแล้ว เปียโนรุ่นที่ดีที่สุดเท่านั้น เช่น เปียโนอัพไลท์ รุ่น U1, U3 และ YUS และแกรนด์เปียโนรุ่น C1,C2,C3,C5,C7, CFIIIS เท่านั้นที่ผลิตในประเทศญี่ปุ่น เปียโนรุ่นอื่นๆนอกจากนี้ ไม่ได้ผลิตในประเทศญี่ปุ่น
Larry fine ผู้แต่งหนังสือ the piano book ได้พูดถึงประสบการ์ณของเขากับเปียโนยามาฮารุ่นเล็กว่า
“เขาพบว่ามีเปียโนยามาฮารุ่นเล็กจำนวนหนึ่งที่มีคีย์เปียโนที่บิด และผิดรูปไปจากเดิม อาการนี้ทำให้ช่างไม่สามารถปรับระดับคีย์ (key leveling) หรือปรับกลไกได้ (Regulation) จากบันทึกการผลิตของยามาฮา คีย์เปียโนเหล่านั้นนำเข้าจากโรงงานยามาฮาในประเทศจีน”
“มีช่างเปียโนหลายคนที่เขารู้จักบอกว่า สาเหตุที่เแกรนด์เปียโนยามาฮารุ่น GH1 และ GP1(แกรนด์เปียโนรุ่นนี้ผลิตในอินโดนีเซีย ยาว 5 ฟุต 3 นิ้ว) บางหลังมีเสียงแย่ และจูนเสียงยาก นั้นมาจากการวัดขนาดที่ผิด”
ประการหลักการเลือกซื้อเปียโนที่ผมคิดว่ามีความสำคัญที่สุด คือ ต้องไม่เลือกซื้อเปียโนที่ผลิตจากโรงงานในประเทศจีน หรือ อินโดนีเซีย เพราะเปียโนที่ผลิตจากโรงงานเหล่านั้นล้วนทำมาเพื่อขายในราคาถูก การผลิตเปียโนเหล่านั้นจึงเน้นเรื่องของการประหยัดต้นทุน มากกว่าคุณภาพ สายการผลิตถูกออกแบบให้ง่ายและใช้เวลาน้อย เพื่อให้ได้จำนวนมากๆ การเลือกใช้วัสดุก็จะใช้วัสดุที่มีราคาถูก ไม่ใช่วัสดุที่มีคุณภาพดีที่มีความทนทาน การควบคุมคุณภาพการผลิตก็ทำได้ยาก เพราะใช้แรงงานที่มีราคาถูก ท่านจึงต้องให้ความสนใจถึงสถานที่ตั้งของโรงงานเสมอ
ประการที่สอง ท่านยังต้องระวัง คำโฆษณาว่า “Germany Scale” “Selected by ……” “by ………… ” “designed in Japan (or Germany) ” หรือ “Imported from Japan (or Germany)” หรือ “made with German parts” ด้วย เพราะคำเหล่านั้นไม่ได้หมายความว่าเปียโนหลังนั้นจะทำในประเทศญี่ปุ่น หรือในเยอรมันจริงๆ แต่ท่านควรตั้งคำถามตรงๆกับพนักงานขายว่า โรงงานที่เปียโนหลังนั้นตั้งอยู่ในประเทศอะไร และถ้าคำตอบไม่ใช่ ประเทศญี่ปุ่น หรือประเทศในยุโรป เช่น เช็ค เยอรมัน ออสเตรีย อิตาลีแล้ว ผมแนะนำว่าท่านอย่าซื้อ
Larry Fine ผู้แต่งหนังสือ The Piano Book ได้กล่าวอีกว่า
“หากท่านมีเงินไม่พอที่จะซื้อเปียโนคุณภาพดีในเวลานี้ และท่านไม่สามารถหาแผนการผ่อนชำระ หรือเงินกู้ได้ ท่่านก็ควรจะสะสมเงินต่อไปจนกว่าจะพอที่จะซื้อเปียโนที่ท่านต้องการจริงๆ แทนที่จะฝืนซื้อเปียโนคุณภาพไม่ดี ที่ท่านไม่ต้องการ และใช้ได้อีกไม่นานก็เสีย นอกจากนี้เปียโนที่มีคุณภาพต่ำยังทำให้คุณต้องเสียค่าดูแลรักษา และซ่อมแซมมากกว่าในระยะยาวอีกด้วย ที่สำคัญกว่านั้นเปียโนที่มีคุณภาพต่ำ จะทำให้คุณหมดความกระตือรือร้นในการเล่นเปียโนไปในที่สุด “
YAMAHA รุ่น U series
โรงงานผลิตเปียโนที่ดีที่สุดของยามาฮา คือ โรงงานที่ตั้งอยู่ ในเมือง Hamamatsu ประเทศญี่ปุ่น และโรงงานนี้ผลิตเปียโนยามาฮารุ่น U1 และ U3 ดังนั้นมาตรฐานการสร้างของเปียโนทั้ง 2 รุ่นนี้จึงอยู่ในระดับมาตรฐาน ทั้งการออกแบบ และการผลิต โดยให้น้ำหนักทั้งเรื่องต้นทุนการผลิต และคุณภาพเปียโนเท่าๆกัน แม้ว่า U series ของยามาฮาจะผลิตออกมาจำนวนมากๆ หรือที่เรียกว่า mass production แต่ยามาฮาก็ยังสามารถให้ความสำคัญกับรายละเอียดเล็กๆได้เป็นอย่างดี แม้ว่าอาจจะมีจุดบกพร่องบ้าง แต่เปียโนส่วนใหญ่ก็สามารถผลิตได้มาตรฐาน เปียโนยามาฮารุ่น U1, และ U3 เป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดของยามาฮา เหมาะสำหรับใช้ฝึกซ้อมที่บ้าน หรือสถาบันดนตรี
YAMAHA U series แบ่งเป็น 3 รุ่น ได้แก่
YAMAHA U1 ความสูง 121 ซม / ความยาว 150 ซม / ความลึก 65 ซม (เปียโนใหม่รุ่นนี้ ราคา 299,000 บาท)
YAMAHA U2 มีความสูง 127 ซม/ ความยาว 150 ซม / ความลึก 65 ซม (ยามาฮาหยุดการผลิตเปียโนรุ่นนี้แล้ว)
YAMAHA U3 ความสูง 131 ซม / ความยาว 153.5 ซม / ความลึก 65 ซม (เปียโนใหม่รุ่นนี้ ราคา 349,000 บาท)
ด้วยมาตรฐานการผลิตที่เที่ยงตรงของโรงงานยามาฮาที่ตั้งอยู่ในประเทศญี่ปุ่น หากเปียโนเหล่านั้นได้รับการซ่อมจากช่างที่ดี ก็จะสามารถคงคุณภาพที่ดีเช่นนี้ต่อไปได้อีกมากกว่า 50 ปี สำหรับท่านที่มีงบประมาณ 70,000-250,000 บาท ผมจึงขอแนะนำว่าเปียโนยามาฮาใช้แล้วรุ่น U1 และ U3 น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่หากท่านมีงบประมาณ มากกว่า 250,000 บาท นอกจากเปียโนยามาฮาแล้ว ท่านยังมีเปียโนยุโรปใหม่อีกหลายยี่ห้อเป็นทางเลือก ไว้มีโอกาส ผมจะได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมต่อไป
เปียโน Yamaha U1 และ Yamaha U3 แตกต่างกันอย่างไร?
เปียโนทั้งสองรุ่นนี้ผลิตจากโรงงานในเมือง Hamamatsu ประเทศญี่ปุ่น มีคุณภาพการสร้างแบบเดียวกัน ใช้วัสดุที่มีคุณภาพเท่ากัน และใช้ช่างที่มีทักษะสูง สิ่งที่แตกต่างกันของทั้ง 2 รุ่นมีเพียงอย่างเดียว คือ ยามาฮารุ่น U3 มีความสูงกว่ายามาฮารุ่น U1 อยู่ 10 ซม. YAMAHA U3 จึงสามารถใส่สายที่ยาวกว่า และมีพื้นที่ซาว์นบอร์ดที่ใหญ่กว่า YAMAHA U1
สายที่ยาวกว่านี้ทำให้เปียโนยามาฮา U3 มีเสียงที่ทุ้ม เต็ม และสม่ำเสมอกว่า U1 โดยเฉพาะช่วงเบส (bass) เปียโนยามาฮา U3 จะให้เสียงที่นุ่ม ฟังดูอบอุ่นกว่า และด้วยซาว์นบอร์ดที่ใหญ่กว่า ทำให้เปียโน U3 มีคุณภาพเสียงใกล้เคียงกับแกรนด์เปียโนขนาดเล็กเลยทีเดียว (baby grand piano)
ซาว์นบอร์ดเป็นแหล่งกำเนิดเสียงของเปียโน มีหน้าที่ ขยายการสั่นสะเทือน ที่ส่งต่อมาจากสายเปียโน ผ่านสะพาน (Bridge) ผ่านเข้าไปถึงซาว์นบอร์ด ดังนั้นซาว์นบอร์ดที่มีขนาดใหญ่กว่า จึงสามารถสร้างเสียงที่ดี และมีคุณภาพสูงกว่า
เนื่องจากราคาเปียโนมือสอง ยามาฮา รุ่น U3 ไม่ได้แพงกว่า U1 เท่าไหร่นัก (ต่างกันประมาณ 15,000-20,000 บาท) และสามารถขายต่อได้ง่ายกว่า ดังนั้นผมจึงขอแนะนำให้ท่านเลือกเฉพาะเปียโนยามาฮารุ่น U3 เท่านั้น
ตารางแสดงรุ่น ปีผลิต และหมายเลขเครื่อง ของ เปียโนยามาฮา รุ่น U1 series* (YAMAHA U1 MODEL INDEX)
U1-SERIES |
YEAR | SERIAL NO. |
U1D |
1959-1965 |
1xx,xxx-4xx,xxx |
||
U1E |
1965-1970 |
5xx,xxx-9xx,xxx |
||
U1F |
1970-1971 |
1,0xx,xxx-1,1xx,xxx |
||
U1G |
1971-1972 |
1,1xx,xxx-1,3xx,xxx |
||
U1H |
1972-1980 |
1,4xx,xxx-3,1xx,xxx |
||
U1M |
1980-1982 |
3,2xx,xxx-3,6xx,xxx |
||
U1A |
1982-1987 |
3,7xx,xxx-4,3xx,xxx |
||
U10BL |
1987-1989 |
4,4xx,xxx-4,7xx,xxx |
||
U10A |
1989-1994 |
4,8xx,xxx-5,2xx,xxx |
||
U100 |
1994-1997 |
5,3xx,xxx-5,5xx,xxx |
||
YU1 |
1997-2001 |
|
5,5xx,xxx-5,9xx,xxx |
*ขอขอบคุณข้อมูลจาก ปีเตอร์สัน เปียโน แกลเลอรี่
ตารางแสดงรุ่น ปีผลิต และหมายเลขเครื่อง ของ เปียโนยามาฮา รุ่น U3 series* (YAMAHA U3 MODEL INDEX)
U1-SERIES |
YEAR | SERIAL NO. |
U3D |
1959-1965 |
1xx,xxx-4xx,xxx |
||
U3E |
1965-1970 |
5xx,xxx-9xx,xxx |
||
U3F |
1970-1971 |
1,0xx,xxx-1,1xx,xxx |
||
U3G |
1971-1972 |
1,1xx,xxx-1,3xx,xxx |
||
U3H |
1972-1980 |
1,4xx,xxx-3,1xx,xxx |
||
U3M |
1980-1982 |
3,2xx,xxx-3,6xx,xxx |
||
U3A |
1982-1987 |
3,7xx,xxx-4,3xx,xxx |
||
U30BL |
1987-1989 |
4,4xx,xxx-4,7xx,xxx |
||
U30A |
1989-1994 |
4,8xx,xxx-5,2xx,xxx |
||
U300 |
1994-1997 |
5,3xx,xxx-5,5xx,xxx |
||
YU3 |
1997-2001 |
|
5,5xx,xxx-5,9xx,xxx |
*ขอขอบคุณข้อมูลจาก ปีเตอร์สัน เปียโน แกลเลอรี่
เปียโนยามาฮาที่มีหมายเลขเครื่อง 122,000-809,000 (ผลิตในปี คศ 1960-1970)
เปียโนในช่วงนี้จะมีโทนเสียงที่ไม่ดี มีเสียงเบสที่ทีบ และมีกลไกทีเก่ามาก เนื่องจากเปียโนมีอายุการใช้งานมานานมาก ร้านเปียโนสามารถซื้อมาได้ในราคาถูก หากได้รับการซ่อมใหม่ทั้งภายใน ภายนอก อย่างดี ก็จะได้เปียโนที่มีคุณภาพดีกว่าเปียโนใหม่ รุ่น JU และ JX แต่หากร้านเปียโนต้องการกำไรมาก และเพียงนำมันมาขัด ทำสีใหม่ เพื่อให้ดูเหมือนว่าเปียโนหลังนี่ผ่านการซ่อมมาแล้วเท่านั้น และไม่ได้ซ่อมแซมภายในให้ดี เปียโนเหล่านี้ก็จะมีปัญหามากในภายหลัง และท่านอาจต้องเสียเงินค่าซ่อมอีกจำนวนมาก
เปียโนยามาฮาที่มีหมายเลขเครื่อง 978,000-1,743,000 (ผลิตในปี คศ 1970-1975)
คำแนะนำของสำหรับเปียโนที่ผลิตในช่วงนี้เหมือนกับเปียโน U1 และ U3 ที่ผลิตในช่วงปี 1960แต่ผมสังเกตุว่าเปียโนยามาฮาที่ผลิตในช่วง 1973-1974 ผลิตได้มีคุณภาพดีขึ้น แต่ผมขอแนะนำให้ท่านเลือกซื้อเปียโนที่ผลิตในช่วงปี 1975-1985 จะดีกว่า
เปียโนยามาฮาที่มีหมายเลขเครื่อง 1,943,000-3,832,000 (ผลิตในปี คศ 1975-1985) “ยุคทอง”
หากท่านมีโอกาสได้ลองเล่น และหาข้อมูลจากร้านขายเปียโนหลายร้าน เพื่อรับความคิดเห็นก่อนตัดสินใจ ท่านจะพบว่าเปียโนมือสองยามาฮารุ่น U1 และ U3 ที่ผลิตในช่วงนี้มีความคุ้มค่าแก่การเลือกซื้อมากกว่าเปียโนยามาฮาที่ผลิตในช่วงปี 1960-1970 และ 1970-1975
ผมขอเรียกเปียโนที่ผลิตในช่วง 1975-1985 นี้ว่า ยุคทอง เพราะเป็น 10 ปี ที่ยามาฮาทำเปียโนออกมาได้คุณภาพที่ดีเยี่ยม เปียโนจึงมีเสียงเบสที่ทุ้มสม่ำเสมอ มีโทนเสียงกลางที่อบอุ่น นุ่มเท่าๆกัน แต่มีพลัง มีเสียงสูงที่ใส ชัดเจน
คุณภาพของเปียโนยามาฮาที่ผลิตในช่วงนี้ เกิดจากการสะสมประสบการ์ณการผลิตเปียโนที่ยาวนาน ความพยายามที่จะเทำเปียโนที่มีเสียงที่ไพเราะ และมีกลไกที่ดีที่สุดของยามาฮา ด้วยการคัดเฉพาะวัสดุที่ดีที่สุด และใช้ช่างฝีมือ และทักษะดีมาทำเปียโน ผู้ผลิตเปียโนในปัจจุบันดูจะไม่สนใจในเรื่องคุณภาพแล้ว เพราะเขาให้ความสำคัญกับเรื่องต้นทุนเป็นอันดับแรก การซื้อเปียโนเก่าที่ผลิตในจีน และรัสเซีย ถือเป็นการตัดสินใจที่ผิดอย่างมาก แม้ว่าเปียโนเหล่านั้นจะมีราคาถูกมากเท่าไหร่ หรือมีอายุการใช้งานน้อยกว่า หรือแทบจะไม่มีคนใช้งานมาเลยก็ตาม คนที่ผมเคยรู้จักเคยเสนอขายเปียโนจีนมือสอง ให้ร้านเปียโนหลายร้านในราคา 10,000 บาท แต่ไม่มีที่ไหนรับซื้อเลย อาจเป็นเพราะร้านเหล่านั้นทราบถึงปัญหาต่างๆมากมายที่จะตามมา
คราวหน้าผมจะเขียนเรื่องของเปียโนมือสองยามาฮารุ่น UX series ซึ่งรุ่น Top ของเปียโนอัพไลท์ยามาฮา และเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ในหมู่คนที่เลือกซื้อเปียโนมือสองอยู่
เปียโนยุโรปมือสอง Steinway & sons Bosendorfer C.bechstein Bluthner Schimmel Sauter August Forster Seiler
In เลือกซื้อเปียโน, Piano Buyer Guide, Piano Comments on March 16, 2016 at 3:36 pmSteinway & sons Bosendorfer C.bechstein Bluthner Schimmel Sauter August Forster Seiler
เปียโนยี่ห้อที่เขียนไว้ข้างต้นล้วนเป็นเปียโนแฮนด์เมด (Hand-Crafted) ที่มีคุณภาพดีเยี่ยมระดับโลกทั้งนั้น จัดได้ว่าเป็นเปียโนในระดับ Best Quality ซึ่งถูกออกแบบสร้างมาอย่างปราณีต ซึ่งหากได้ลองเล่นแล้ว ท่านจะทราบได้ด้วยตัวเองว่าทำไปเปียโนเหล่านี้ถึงได้เป็นเปียโนที่มีคุณภาพดีที่สุด
คนทั่วไปเวลาเลือกซื้อเปียโนมักจะนึกถึงแต่เปียโนยี่ห้อ ยามาฮา
หากท่านมีเวลา ผมขอแนะนำให้ท่านลองเล่นยี่ห้อเหล่านี้ดูเผื่อเป็นทางเลือกเพิ่มเติมประกอบการเลือกซื้อ ไม่ว่าจะเป็นเปียโนใหม่หรือ มือสอง การได้ลองสัมผัส (touching) และได้ฟังเสียงของเปียโนเหล่านี้ ถือว่าเป็นประสบการ์ณสุดยอดอย่างหนึ่ง เปียโนแต่ละหลังเปรียบได้กับงานศิลปะที่มีความสวยงามทั้งรูปลักษณ์ภาพนอก และคุณภาพเสียงที่ซ่อนอยู่ข้างใน
ผมมักแนะนำลูกศิษฐ์ว่า ให้เพิ่มงบให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เวลาเลือกซื้อเปียโนเพื่อเราจะได้เปียโนหลังที่เราชอบ เพราะเปียโนจะอยู่กับเราไปอีกนานแสนนาน
และหากเราไม่ถูกใจเปียโนหลังที่ซื้อไป เราจะเสียดายที่ไม่ได้คิดให้รอบคอบก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ และเราอาจจะต้องเสียสตางค์ก้อนใหญ่อีกครั้งเพื่อซื้อหลังที่เราชอบ ซึ่งเป็นการสูญเสียที่ไม่ควรเกิดขึ้น
เปียโนยุโรปเหล่านี้ ทนทานมากๆ เพราะถูกสร้างมาอย่างปราณีต และสร้างอย่างแข็งแรง
ดังนั้นเราสามารถเลือกหลังที่มีอายุมากหน่อยได้ โดยไม่ต้องกังวล หากเปียโนที่เราชอบมีเสียงถูกใจ และทัชชิ่งดี
มันจะเป็นเครื่องดนตรีที่สร้างความพอใจให้กับเราได้นานแสนนาน เรียกได้ว่าคุ้มแสนคุ้ม
หลายคนคงนึกไม่ถึงว่าในกรุงเทพ เรามีเปียโนยุโรปมือสอง สภาพดีๆ แบบนี้ขายด้วย
ลองSearch หาดูจาก Google ดูครับ มีหลายร้านที่นำเข้า แต่ควรเลือกแต่ยี่ห้่อที่ยังผลิตอยู่ในปัจจุบันนะครับ บางยี่ห้อที่โรงงานเลิกผลิตไปแล้ว และมีประวัติคลุมเครือ ที่เราไม่แน่ใจ เราไม่ควรเสี่ยงครับ ยี่ห้่อเหล่านั้นอาจเป็นเปียโนที่ทำให้ประเทศอื่นแต่ใช้ชื่อยี่ห้อเปียโนที่ปิดโรงงานไปแล้วมาทำเป็นยี่ห้อก็ได้